เส้นสมองรักธรรมชาติ กลัวธรรมชาติ


"สมองรักธรรมชาติ กลัวธรรมชาติ"
เส้นสมองมีเกาะที่โคน คือเส้นสมองของนักธรรมชาติวิทยา จากเส้นกลางของเกาะที่โคนของเส้นสมองนั้น มีเส้นเชื่อมโยงไปหาเนินดุดันอยู่ด้วย แสดงว่า

เป็นนักธรรมชาติวิทยาแต่กลัวธรรมชาติ คือ ตามธรรมดาเป็นคนที่รักในเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติทุกสิ่งทุกอย่าง เช่นการปลูกผัก ทำไร่ทำนาหรือเลี้ยงสัตว์ แต่ถึงคราวที่ตัวเองต้องไปทำไร่ทำนา เลี้ยงสัตว์บ้างก็ไม่ชอบ จึงได้หลบหนีไปทำงานอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับธรรมชาติต่อไป

เส้นสมองของนักธรรมชาติ

รูปที่ 1
"สมองธรรมชาติ" (รูปที่ 1)
เส้นสมองมีลักษณะเป็นครึ่งเกาะอยู่ที่โคน ครึ่งของเกาะจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม แสดงว่า จะเป็นนักธรรมชาติวิทยา ชอบไปในการเลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ ชอบน้ำตก, ลมพัด, ดอกไม้ไหว หรือสิ่งใดที่ธรรมชาติสร้างมาไม่ใช่มนุษย์สร้าง ถ้าเส้นที่เป็นเกาะนั้นใหญ่มาก ก็เป็นนักธรรมชาติวิทยาชั้นสูง รวมถึงเป็นคนรู้จักบุญคุณพ่อแม่ หรือรักญาติพี่น้องของตนเอง
รูปที่ 2
"สมองธรรมชาติเป็นอุบาทว์" (รูปที่ 2)
เส้นสมองเป็นเกาะอยู่ที่โคน เส้นสมองเส้นนี้มีลักษณะเป็นเกาะมากเกินไป แสดงว่า จะเป็นนักธรรมชาติวิทยาจนเป็นอุบาทว์ คือ เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมชาติไปทั้งสิ้น เช่น เห็นว่า การร่วมประเวณีเป็นเรื่องของธรรมชาติ จึงไม่เลือกว่าเป็นพี่เป็นน้อง ก็มีการร่วมสังวาสกัน หรือพ่ออาจร่วมสังวาสกับลูก เป็นหญิงมักเป็นคนเที่ยว เป็นคนหาเงิน
รูปที่ 3
"สมองธรรมชาติโศกเศร้า" (รูปที่ 3)
เส้นสมองเส้นนี้มีลักษณะเป็นครึ่งของเกาะอยู่ที่โคน คือ สมองนักธรรมชาติและมีเส้นวาสนาสั้น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นในเส้นชีวิตพุ่งตรงขึ้นไปในเกาะนั้นด้วย แสดงว่า นอกจากจะเป็นนักธรรมชาติวิทยาแล้ว มักประสบกับความโศกเศร้าบ่อย ๆ ด้วย และตอนที่จะมีเรื่องโศกเศร้ามากที่สุด ก็คือตอนใช้เงินหมดไปหนหนึ่ง หรือมีเรื่องโศกเศร้าครั้งหนึ่ง การเงินจะต้องหมดไปด้วยก็ได้ คนที่มีเส้นสมองดังนี้ ถ้าไปทำสวนหรือเลี้ยงสัตว์ จะจนลงหรือทำให้หมดตัว

สมองที่เพียรทางไม่ดี


"สมองที่เพียรชั่ว"
เส้นสมองเกิดเป็นเกาะใหญ่อยู่ตอนกลางของเส้นสมอง เส้นบนของเส้นที่เป็นเกาะนั้นยังมีเส้นเป็นเกาะเล็ก ๆยาวอยู่ด้วย แสดงว่า จะต้องเป็นโรคประสาทปวดหัว หรือมีลักษณะบ้าๆ บอ ๆ อยู่เป็นนิจ ความคิดความอ่านจะยุ่งยาก มักจะทะเยอทะยานในการที่จะทำความชั่วต่างๆ เช่น ค้าของเถื่อน เป็นหญิงโสเภณีหรือเป็นนักเลงการพนันก็ได้ ในเรื่องความรักก็กระทบกระเทือนอยู่เสมอ


เส้นสมองคุมขัง, สะท้อนกลับ

รูปที่ 1

สมองคุมขัง”(รูปที่ 1)

มีสี่เหลี่ยมอยู่ตอนทางปลาย แสดงว่า เจ้าของมือจะถูกคุมขังหรือบวชก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักถูกข้อหาอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วถกคุมขังเป็นส่วนมาก แต่การถูกคุมขังแบบนี้ เมื่อถูกคุมขังไม่นาน ก็จะหลุดรอดออกมาได้ ไม่ใช่แบบที่ถูกคุมขังเป็นเวลานาน ๆ แต่เมื่อถูกคุมขังแล้วจะสะดุ้งหวาดกลัวต่อการถูกคุมขังนั้นอย่างที่สุด
รูปที่ 2

"สมองสะท้อนกลับ" (รูปที่ 2)


เส้นสมองมีรูปสี่เหลี่ยมอยู่ภายใต้เส้นสมอง สี่เหลี่ยมนี้อยู่ที่เนินใต้เส้นสมอง และภายในเส้นสี่เหลี่ยมนั้น มีรูปเป็นกากบาทอยู่ด้วย แสดงว่า จะต้องเกิดเรื่องเป็นความลับขึ้นแก่ตนเอง และจะต้องปิดเรื่องนั้นเป็นความลับอยู่เสมอ คนที่มีรูปนี้อยู่ในเนินใต้สมอง สามารถป้องกันสิ่งที่ร้ายหรือไม่ดีที่อาจเกิดจากผู้อื่นทำหรือส่งผลมาให้, และสะท้อนสิ่งไม่ดีกลับไปหาผู้นั้นได้

สมองเดินทาง


สมองเดินทาง

เส้นสมองมีเส้นตัดอยู่ภายใต้เส้นสมองตอนปลาย เส้นที่ตัดอยู่ภายใต้เส้นสมองนี้ คือ เส้นเดินทาง แสดงว่า จะเป็นผู้ที่ชอบกระทำกิจการที่มีการเดินทางอยู่เสมอ ถ้าคนที่มีเส้นสมองนี้ ไปอยู่ในที่ ๆ ไม่มีกิจการที่ต้องเดินทางแล้ว ก็จะต้องมีเรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่ไม่ได้

สมองหลายงานรุ่งเรือง


"สมองหลายงานรุ่งเรือง"

เส้นสมองโคนเป็นเกาะ แล้วมีเส้นวาสนาเป็นอารมณ์ (เส้นวาสนาที่เกิดขึ้นจากเส้นชีวิตแล้วพุ่งปลายไปหาเนินอารมณ์) เกิดจากเส้นชีวิตพุ่งขึ้นไปตัดเส้นที่เป็นเกาะ อยู่ตอนโคนของเส้นสมอง ให้แยกออกเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้หลาย ๆเหลี่ยม แสดงว่า ต้องทำกิจการที่เป็นอาชีพหลายสิ่งหลายอย่างอยู่เสมอ และกิจการที่กระทำหลายสิ่งหลายอย่างนั้นก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นด้วย

สมองลึกซึ้ง


"สมองลึกซึ้ง"

เส้นสมองแตกออกเป็นง่ามตั้งแต่ตอนกลางของเส้นสมอง เมื่อแตกออกแล้วก็ยาวไปมาก ทำให้ดูเหมือนเส้นสมองเป็น 2 ส่วน แสดงว่าจะเป็นคนที่มีหัวคิดลึกซึ้งชั้นสูง คือ จะมีความคิดดีกว่าผู้อื่นหลายเท่า คนที่มีเส้นสมองดังนี้ ถ้าเมื่อได้กระทำกิจการด้วยสมองของตนเอง ก็จะร่ำรวยเงินทองขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นหญิงสามีอาจทอดทิ้ง และต้องหากินด้วยตัวเองแล้วรวยขึ้น

สมองความคิดไม่แน่นอน


"สมองความคิดไม่แน่นอน"

เส้นสมองแตกออกเป็นง่ามอยู่ที่ปลาย ง่ามที่แตกออกนี้มีลักษณะเหมือนง่ามหนังสติ้ก แสดงว่า เป็นคนที่มีหัวใจไม่แน่นอน กระทำกิจการอย่างใดมักเปลี่ยนใจหยุดเลิกไปง่าย ๆ และไม่แน่นอนไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ความรักและคำพูดก็เอาเป็นหลักฐานอย่างใดไม่ได้ทั้งสิ้น