เส้นชีวิตจนลงในภายหลัง

เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ แล้วโค้งล้อมเนินครอบครัวไปถึงเนินหลักฐาน เส้นชีวิตนี้ท่อนปลายมีเส้นแยกลงเข้าไปภายในเส้นชีวิตอยู่หลาย ๆ เส้น เส้นที่แยกลงไปนี้จะเป็นเส้นเล็กหรือใหญ่ก็ได้ แสดงว่า เมื่ออายุยังน้อยอยู่ หรืออายุกลางคน จะมีทรัพย์สมบัติเงินทองมากมายสักเท่าใดก็เหมือนกัน ครั้นภายหลังเมื่ออายุมากเข้าแล้วก็จะยากจนลง ทรัพย์สมบัติที่สร้างมา จะสูญเสียไปหมด

ชีวิตกำพร้า

รูปที่ 1 ชีวิตกำพร้าพ่อหรือแม่
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ แล้วโค้งล้อมเนินครอบครัวไปถึงเนินหลักฐาน  ตอนปลายของเส้นชีวิต มีเส้นแยกลงจากเส้นชีวิตเข้าไปภายในอยู่ด้วย เส้นที่แยกลงไปนี้เป็นเส้นใหญ่เห็นชัดเจนเท่ากับเส้นชีวิต และไม่ได้พุ่งปลายไปเนินวิปริตเหมือนเส้นเดินทาง แสดงว่า เกิดมาจะต้องเป็นกำพร้า ไม่พ่อหรือแม่ คนใดคนหนึ่งจะต้องตายจากไป ตั้งแต่ตนเองอายุยังน้อยอยู่
รูปที่ 2 ชีวิตกำพร้าทั้งพ่อและแม่
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ แล้วโค้งล้อมเนินครอบครัวไปถึงเนินหลักฐาน เส้นชีวิตเส้นนี้มีเส้นแยกลงทางท่อนปลายของเส้นชีวิตอยู่ 2 เส้น เป็นเส้นใหญ่เห็นชัดเจนเหมือนกับเส้นชีวิต แสดงว่า เกิดมาจะต้องกำพร้าทั้งพ่อและแม่ คือ พ่อแม่จะต้องตายจากไป ตั้งแต่ตนเองอายุยังน้อยอยู่ จะต้องระเหเร่ร่อน ไปอาศัยร่มไม้ชายคาของผู้อื่นอยู่เสมอ


เส้นชีวิตยาวไม่ถึงเนินหลักฐาน

เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือยาวไปไม่ถึงเนินหลักฐานก็ขาดหายไป แล้วมีเส้นคุ้มกันเกิดขึ้นภายนอกเส้นชีวิต และภายในเส้นชีวิตมีเส้นวาสนาอยู่ด้วย แสดงว่า จะมีลักษณะเหมือนคนที่ไม่มีชีวิต มีแต่ผู้ช่วยเหลือและวาสนา คนที่มีเส้นชีวิตเช่นนี้จะเจ็บเกือบตายบ่อย ๆ แต่เมื่อทำท่าจะตายแล้ว ก็จะมีหมอหรือผู้ให้ยากลับหายสบายขึ้นอีก แต่มิช้ามินานก็เจ็บเกือบตายอีกอยู่เรื่อย ๆ ไม่ตายสักที  บางคนขนาดต่อโลงแล้วไม่ตาย

ชีวิตมีที่อยู่ 2 แห่ง

เส้นชีวิตเกิดที่ง่ามมือ ตอนกลางของเส้นชีวิตมีเส้นเดินทางพุ่งไปชนเส้นวาสนา ในกลางที่ราบลำบาก 2 เส้น แสดงว่า จะมีที่อยู่ 2 แห่ง หรือทำงาน 2 แห่ง ก็ได้ จะต้องไป ๆ มา ๆ จากที่แห่งหนึ่งไปยังที่แห่งหนึ่งอยู่เสมอ เส้นวาสนาที่เกิดในที่ราบลำบาก (หรือที่ราบกลางมือ) ย่อมให้ความหมายถึง การเงินที่ดีหรือไม่ดีด้วย ถ้าเส้นวาสนาขึ้นพ้นเส้นสมองขึ้นไปชนอยู่กับเส้นหัวใจ แสดงว่า การเงินดี หาเงินได้ด้วยความเย็นใจ แต่ถ้าเส้นวาสนาขึ้นไปชนเส้นสมอง แสดงว่า การเงินไม่ค่อยดี มี ๆ หมด ๆ อยู่เรื่อย ๆ เรื่องการเงินทำให้กระทบสมองอยู่เป็นนิจ

เส้นชีวิตที่มีหลักฐานบ้านช่อง

รูปที่ 1 ชีวิตมีหลักฐาน
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวยาวไปจนถึงเนินหลักฐาน และที่เนินหลักฐานนั้น เส้นชีวิตแตกออกเป็นเส้นหลักฐานอยู่ด้วย แสดงว่า จะเป็นผู้มีหลักฐานบ้านช่องบริบูรณ์เสมอ ถ้าเส้นหลักฐานนี้เกิดขึ้นจากเส้นชีวิตทั้งสองมือ แสดงว่า จะมีหลักฐานบ้านช่อง ตั้งแต่อายุน้อย คือ ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
รูปที่ 2 ชีวิตมีหลักฐานหลายแห่ง

เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัว ตอนปลายของเส้นชีวิตไปหมดอยูที่เนินหลักฐาน และมีเส้นหลักฐานแยกออกจากท่อนปลายของเส้นชีวิต เส้นหลักฐานเส้นนี้ เมื่อแยกออกแล้ว ก็แยกออกเป็นหลาย ๆ เหลี่ยมด้วยกัน แสดงว่า จะเป็นคนที่มีหลักฐานบ้านช่องที่ดินหลายแห่ง ตามมากและน้อยของเส้นที่เป็นเหลี่ยม ๆ นั้น

เส้นชีวิตมีเส้นรูปสามเหลี่ยมอยู่ด้วย

รูปที่ 1 เส้นชีวิตหาเงินไม่พอใช้
เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือ ตอนกลางมีรูปสามเหลี่ยมเกิดขึ้น เส้นรูปสามเหลี่ยมนี้ข้างบนเป็นเส้นตรง ข้างล่างเป็นรูปเฉียงเข้ามาชนกับเส้นชีวิต เส้นรูปสามเหลี่ยมนี้จะทำมุมให้เกิดขึ้นด้วยเส้นหนึ่งเส้นใดก็ได้ แสดงว่า ในระยะชีวิตตอนนั้น ๆ จะหาเงินไม่พอใช้ คำว่าหาเงินไม่พอใช้ ตามรูปของเส้นนี้ ไม่ใช่หาเงินไม่ได้ บางคนหาได้มาก แต่จะเกิดเรื่องต้องเสียต้องจ่ายมากกว่าหาได้อยู่เสมอ
รูปที่ 2 หาเงินไม่พอใช้ตลอดชีวิต
เส้นชีวิตเกิดขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยม แอบอยู่ภายในเส้นชีวิต เส้นรูปสามเหลี่ยมนี้มีลักษณะเหมือนกับรูปที่ 1 คือ ตอนข้างบนตัดเป็นเส้นตรงออกไป แล้วมีเส้นหักพับจากเส้นที่ตัดตรงไปนั้นเข้ามาหาเส้นชีวิตอีกทีหนึ่ง จนกลายเป็นรูปสามเหลี่ยม แต่เส้นรูปสามเหลี่ยมเส้นนี้ใหญ่มาก(ถ้ารูปสามเหลี่ยมใหญ่ มักเกิดขึ้นด้วยเส้นโรคประสาทสมองกับเส้นวาสนาทำมุมกัน ทำให้เกิดรูปสามเหลี่ยมขึ้น) แสดงว่า เกิดมาจะหาเงินไม่พอใช้ตลอดชีวิต และเรื่องการหาเงินไม่พอใช้นี่เอง จะทำให้กระทบกระเทือนสมอง หรือลำบากใจอยู่เป็นนิจ (เส้นรูปสามเหลี่ยมอยู่ในที่ราบลำบาก)
รูปที่3 ชีวิตเจ็บป่วยแต่ก็สบาย
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ ภายในเส้นชีวิตมีเส้นรูปสามเหลี่ยมเกิดขึ้นด้วย แต่ไม่เหมือนรูปที่ 1 คือ เส้นรูปสามเหลี่ยมเส้นนั้นห้อยลงแล้ว เส้นนั้นหักพับเข้ามาชนกับเส้นชีวิตอีกทอดหนึ่ง เส้นที่ทำให้เป็นรูปสามเหลี่ยมเส้นบนยาว เส้นล่างสั้น แสดงว่า ร่างกายจะไม่ดี คือมีการเจ็บป่วยอยู่เสมอ แต่ก็ยังทำงานทำการได้อยู่เรื่อย ๆ ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ ถ้าเส้นรูปสามเหลี่ยมใหญ่มาก หมายถึงตลอดชีวิต เจ็บป่วยอยู่มิได้ขาด

เส้นชีวิตมีการป้องกัน

เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือ ตอนกลางของเส้น มีเส้นรูปสี่เหลี่ยมอยู่ด้วย และภายในสี่เหลี่ยมนั้น จะมีเส้นที่อ่านความหมายว่าอย่างไรเกิดขึ้นก็ได้ แสดงว่า เส้นที่เกิดขึ้นในรูปสี่เหลี่ยมนั้น จะไม่เกิดเรื่องราวขึ้นเลย เช่น ในรูปตัวอย่างนี้มีเส้นโรคประสาทโกรธเคืองเกิดขึ้นในรูปสี่เหลี่ยม แต่เจ้าของมือจะไม่โกรธเคืองกับผู้ใดในระยะนั้น หรือบางทีอาจจะนึกโกรธ แล้วไม่โกรธก็ได้ แต่ถ้ารูปสี่เหลี่ยมขาด ๆ ตอน ๆ อาจจะโกรธแล้วหายก็ได้ หมายถึงป้องกันไม่สนิท

มีเส้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมแอบอยู่ติดเส้นชีวิต

รูปที่ 1 ชีวิตคุมขัง
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวยาวไปจนถึงเนินหลักฐาน ตอนกลางมีเส้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมแอบอยู่ภายในเส้นชีวิตด้วย แสดงว่า เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงเส้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมแอบอยู่ จะต้องเกิดเรื่องราวถึงกับต้องไปอยู่ในตะรางหรือติดห้องขังหนหนึ่ง (เส้นตะรางที่เกิดขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมขึ้นเฉย ๆ แบบนี้เรื่องที่จะทำให้ติดตะรางนั้น มักจะเกิดขึ้นที่บ้านเรือนของตนเอง)

รูปที่ 2 ชีวิตเดินทางแล้วโดนคุมขัง
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ แล้วโค้งล้อมเนินครอบครัวยาวไปจนถึงเนินหลักฐาน  ตอนกลางเส้นมีเส้นสี่เหลี่ยมแอบอยู่ภายในเส้นชีวิตด้วย และภายในรูปเส้นสี่เหลี่ยมมีเส้นเดินทางอยู่ด้วย เส้นเดินทาง คือ เส้นที่ขีดอ่อนลงไปจากเส้นชีวิต แสดงว่า เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงเส้นสี่เหลี่ยมนั้น จะต้องมีการเดินทางไกลไปที่อื่น และเมื่อเดินทางไปแล้ว ก็จะต้องไปถูกคุมขังอยู่ด้วย

เส้นชีวิตมีเส้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าคร่อมอยู่

รูปที่ 1 ชีวิตที่เจริญขึ้น
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ โค้งล้อมเนินครอบครัวยาวไปถึงเนินหลักฐาน ตอนกลางมีเส้นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าคร่อมอยู่ด้วย แสดงว่า เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงตอนที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าคร่อมอยู่นั้น จะได้กระทำกิจการบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งจะทำให้มีความรอบรู้ขึ้นกว่าชีวิตที่ได้ผ่านมาแล้ว เส้นนี้โดยมากพบบนมือคนที่ไปเป็นทหาร หรือไปเรียนวิชาอย่างใดอย่างหนึ่ง ระยะนั้นจึงมีความรู้มากขึ้น ถ้าพยากรณ์ผลการสอบว่า สอบได้แน่
รูปที่ 2 ชีวิตมีผู้ช่วย
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ แล้วโค้งล้อมเนินครอบครัวยาวไปจนถึงเนินหลักฐาน ตอนกลางของเส้นชีวิตขาดออกจากกัน แต่ตรงที่เส้นชีวิตขาดนั้น กลับมีเส้นสี่เหลี่ยมคร่อมอยู่ แสดงว่า ในตอนที่เส้นชีวิตขาดนั้น จะเจ็บป่วยรุนแรงเกือบเสียชีวิตหนหนึ่ง แต่บังเอิญมีผู้ช่วยเหลือให้รอดไปได้


ลายมือหมดตัวเพราะการพนัน



 
วันนี้มีภาพมือของนักพนันรายหนึ่ง (แต่ไม่ใช่แทงบอล) ที่เล่นจนหมดตัว ต้องขายบ้านช่องใช้หนี้ และสุดท้ายต้องทิ้งลูกเมียหนี พ่อค้าคนนี้เมื่อ 2 เดือนก่อน เขามาดูลายมือไปแล้ว มาถามแต่เรื่องเงินทองว่าจะเจ๊งหมดหรือไม่ ผมบอกว่าหมด กำลังจะหมดห้ามเอาไปทำอะไรทุกอย่าง รีบป้องกันเร็ว
    
          ครั้งสุดท้ายเขามาถามว่า จะให้ผมทำอยางไร  ตอนนี้ผมหมดตัวแล้ว แล้วต้องหนีด้วยไม่ทราบว่าจะหนีไปทางทิศไหนดี ห่วงแต่ว่าลูกเมียจะไปรอดหรือไม่
เราไปดูเครื่องหมายกันว่าอะไรที่ทำให้ชะตาชีวิตต้องตกต่ำแบบนี้


กล้ามากจนเจ๊ง
          จะเห็นว่าที่เนินอังคารใน เนินที่อยู่ตรงข้างนิ้วหัวแม่มือ เป็นเนินที่มีเนื้อนูนขึ้นมาอย่างเด่นชัด นูนมาก และเป็นอย่างนี้ทั้ง 2 มือ เป็นการบ่งถึงการมีจิตใจที่กล้าหาญชาญชัย ไม่กลัวฟ้ากลัวดิน เรื่องนี้เป็นดาบสองคม การที่คนเราไม่กลัวอะไรเลยนั้นมันก็ดีอยู่ ในการทำกินเรื่องค้าขายต่างๆ แต่ถ้าไปกล้าไปเก่งในเรื่องการพนันขันต่อ หรือไปกล้าในเรื่องการปล้นจี้  แบบนี้มันใช้ผิดทางแล้ว ความเสื่อมถอยของชีวิตมันก็ตามมาทันที ตามชนิดแบบเงาตามตัว


เจ๊งไม่เป็นท่า
          การที่เสี่ยคนนี้ไปเข้าบ่อนแล้วแพ้เสียเงินทอง แต่ไม่ใช้ครั้งเดียวก็เสียจนหมดตัว ไม่ใช่ มันมีทั้งแพ้แล้วก็ชนะ  เรียกว่าสลับกันไป แต่เสี่ยใหญ่รายนี้เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ เพราะมีเนินอังคารในเป็นเหตุดังที่กล่าวมา เมื่อแพ้มันก็จะต้องเอาคืน แต่นี่มันเป็นบ่อนการพนัน ไม่ใช่นักมวย ที่แพ้แล้วขอแก้มือ ไม่ใช่ สุดท้ายก็กลายเป็นคนหมดตัว เจ๊งจนต้องเก็บข้าวของหนี น่าสงสารๆ เวรกรรมๆ


เครื่องหมายที่ทำให้หมดสิ้น
          ถ้าจะดูเรื่องทรัพย์สินเงินทองว่าจะมั่นคงหรือไม่ ให้ดูที่เนินเสาร์เนินที่อยู่ตรงใต้นิ้วกลาง ดูว่ามีเครื่องหมายที่เสียหายหรือไม่ จะเห็นว่าที่เนินเสาร์นี้มีเครื่องหมายที่เสียหายด้วยการมีรูปเกาะยาวที่เต็มเนินเลย ส่วนที่มือซ้ายก็มีเช่นกันแต่ไม่ใหญ่มาก เครื่องนี้ละครับ ที่มันมาทำลายทรัพย์สินเงินทองจนหมดสิ้น หมดจนเนื้อเนินนั้นได้ยุบแฟบแบนราบไปเลย แบนแบบนี้แล้วมันจะเหลืออะไร เวรกรรมๆ

http://www.komchadluek.net/detail/20140622/186843.html

เส้นชีวิตที่มีเส้นสมองมาเกิดเป็นเกาะ,เป็นสามเหลี่ยม

รูปที่ 1 เส้นชีวิตที่มีเส้นสมองมาเกิดเป็นเกาะร่วมกับเส้นชีวิต
เส้นชีวิตกับความโศก
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ แต่เส้นชีวิตเส้นนี้ท่อนปลายจะยาวอย่างไรก็ได้  ตอนโคนมีรูปเป็นเกาะที่เกิดจากเส้นสมองทับอยู่บนเส้นชีวิต แล้วมีเส้นวาสนาเป็นอารมณ์เกิดขึ้นจากเส้นชีวิตผ่านเกาะขึ้นไป ทำให้เกาะแปรรูปไปเป็นอย่างอื่น แสดงว่า ชีวิตบั้นต้นเกิดมาจะต้องโศกเศร้า คือ มีพ่อแม่ลูกเมียจะต้องพลัดพรากจากกันไป หรือตายจากกันไปทั้งสิ้น แต่ภายหลังมีความเพียรพยายาม ทำให้ความโศกเศร้านั้นหายไปได้ คือ ได้ลูกได้เมียได้ผัว ไม่พลัดพรากจากกันต่อไปอีก
รูปที่ 2 เส้นชีวิตที่มีเส้นสมองมาร่วมเป็นสามเหลี่ยมกับเส้นชีวิต
เส้นชีวิตที่เป็นหลักวิชา
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ ท่อนปลายจะยาวถึงไหนก็ได้ แต่ตอนโคนมีเส้นสมองเกิดขึ้น 2 เส้น และมีเส้นอื่น ๆ พุ่งเข้ามาทำรูปเป็นสามเหลี่ยม แสดงว่า เกิดมาจะมีความรอบรู้ในเรื่องบางสิ่งบางอย่างที่เป็นหลักวิชา และความรู้ในเรื่องที่เป็นหลักวิชานั้น สามารถจะเผยแพร่ถ่ายทอดความรู้นั้นไปให้ผู้อื่นได้

เส้นชีวิตเดินทาง

 ชีวิตเดินทาง
เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐาน  ตอนกลางของเส้นชีวิต มีเส้นขีดลงจากเส้นชีวิตหลาย ๆ เส้น แสดงว่า จะต้องมีการเดินทางอยู่เสมอ หรือมีอาชีพหากินด้วยการเดินทางเป็นประจำ เส้นเดินทางที่แยกลงจากเส้นชีวิตเป็นเส้นเล็ก ๆ สั้น ๆ ตามแบบนี้ แสดงว่า การเดินทางนั้น เป็นการเดินทางที่ไปไม่ไกลนัก หรือมีการเดินทางใกล้บ้านใกล้ที่อยู่ของตนนั่นเอง

เส้นชีวิตย้ายที่อยู่

รูปที่1 ชีวิตโยกย้ายเสมอ
เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือ แล้วพุ่งเป็นเส้นโค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐาน แต่เส้นชีวิตทางท่อนปลาย คือ ตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไปแล้ว ขาดออกเป็นตอน ๆ เหลื่อมล้ำกันลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งเหลื่อมล้ำกันลงไป เส้นชีวิตยิ่งใหญ่ขึ้นทุกที แสดงว่า เมื่ออายุมากแล้ว จะอยู่เป็นที่ไม่ค่อยได้ มักมีการโยกย้ายที่อยู่เสมอ และเมื่อย้ายที่อยู่ไปหนหนึ่ง ความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมหนหนึ่ง
รูปที่ 2 ชีวิตโยกย้ายที่อยู่
เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัว ยาวไปจนถึงเนินหลักฐาน  ภายในเนินครอบครัว มีเส้นคุ้มกันเกิดขึ้นด้วย และจากเส้นคุ้มกันนั้น มีเส้นขีดเข้ามาหาเส้นชีวิตเป็นช่อง ๆ แสดงว่า เมื่อชีวิตเดินมาถึงเส้นที่ขีดขึ้นไปหาเส้นคุ้มกันหนหนึ่ง จะต้องย้ายที่อยู่หนหนึ่ง ถ้าเส้นขีดขึ้นไปหาเส้นคุ้มกันนั้นมีหลาย ๆ เส้น แสดงว่า จะต้องมีการโยกย้ายที่อยู่หลาย ๆ ครั้ง เท่ากับเส้นที่ขีดขึ้นไปนั้น

เส้นชีวิตโยกย้ายไกลบ้าน,ใกล้บ้าน

รูปที่1
เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือโค้งล่้อมเนินครอบครัวไปได้เพียงครึ่งเดียวก็ขาดหายไป แล้วก็มีเส้นชีวิตทางท่อนปลายขึ้นมาต่ออยู่ทางภายในเส้นชีวิตที่ขาดนั้นอีกทอดหนึ่ง เส้นชีวิต 2 เส้นนี้ เหลื่อมล้ำกันอยู่ มีลักษณะเหมือนเส้นลาภ แสดงว่า 
เมื่อใด คิดจะโยกย้ายที่อยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อนั้นก็มีลาภผลขึ้นหนหนึ่ง หลังจากนั้น ก็จะต้องมีการโยกย้ายที่อยู่ ครั้นย้ายไปแล้ว ลาภผลรายได้ก็จะตกลงอีก ครั้นเมื่อใดคิดจะย้ายบ้านอีก เมื่อนั้นก็จะมีลาภผลอีก
รูปที่ 2
เส้นชีวิตรูปที่ 2 เหมือนกับรูปที่ 1 ต่างกันตรงที่ เส้นชีวิตทางท่อนปลายขึ้นมาต่ออยู่ภายนอกเส้นชีวิตที่ขาดนั้น (รูปที่1 จะต่ออยู่ภายในเส้นชีวิต) แสดงว่า รูปที่ 1 ยิ่งย้ายยิ่งไกลบ้านเดิมออกไป รูปที่่2 ยิ่งย้ายยิ่งใกล้บ้านเดิมทุกที


เส้นชีวิตเป็นลูกโซ่

เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวยาวไปจนถึงเนินหลักฐาน ตลอดทั้งเส้นจะมีเกาะเล็กเกาะน้อยไปตลอดเส้น หรืออย่างที่เรียกว่า เส้นชีวิตเป็นลูกโซ่ แสดงว่า ร่างกายจะไม่ดี คือ จะเกิดเรื่องเจ็บป่วยรุนแรงขึ้นบ่อย ๆ และการเงินก็ไม่ค่อยดีด้วย เดี๋ยวมีเดี๋ยวหมดอยู่เรื่อย ๆ มักสร้างหลักฐานบ้านช่องไม่ค่อยได้ หรือหมดตัวบ่อย ๆ 


เส้นชีวิตมีเสน่ห์

เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐาน หรือส้นมือ ตอนต้นของเส้นชีวิตที่เกิดอยู่ที่ง่ามมือมีเส้นแตกออกเป็นรากไม้ แสดงว่า ชีวิตจะเป็นเสน่ห์ คือ เมื่อใครเห็นก็รักและชอบใจทันที โดยไม่ต้องพูดจาอะไรด้วย คนที่เห็นก็รักเสียแล้ว แต่จะมีเสน่ห์มากหรือน้อย ให้ดูเส้นที่แตกออกเป็นรากไม้นั้น ถ้าเส้นแตกออกมากจะมีเสน่ห์มาก ถ้าเส้นแตกออกน้อย มีเสน่ห์น้อย

เส้นชีวิตไม่เจริญ(เจริญช้า)

เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐานหรือส้นมือ ตอนปลายมีลักษณะแตกออกเป็น 2 ง่าม เมื่อแตกออกแล้ว ก็ค่อย ๆ แยกห่างกันออกไปทุกที มีลักษณะเป็นรูปกรวยยาว ๆ แสดงว่า ชีวิตไม่ค่อยเจริญหรือเจริญช้า คือ ทำกิจการอย่างใดอยู่ สิ่งนั้น ๆ จะค่อย ๆ เจริญขึ้นครั้งละเล็กละน้อย เช่น จะปลูกบ้านปีหนึ่งซื้อเสา ปีหนึ่งซื้อไม้ กว่าจะปลูกบ้านได้ก็หลายปี

เส้นชีวิตรื่นเริง

เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐานหรือส้นมือ มองดูไกล ๆ เหมือนเอาวงเวียนขีดให้เป็นวงกลมขึ้นวงหนึ่ง เรียกว่า เส้นชีวิตล้อมเนินครอบครัวเป็นวงกลม แสดงว่า ตลอดชีวิต จะเป็นผู้มีความรื่นเริงสดใสอยู่เสมอ คือ จะเป็นคนที่ชอบพูดจาตลกคนองเฮฮา เหมือนคนไม่มีทุกข์ร้อนอยู่เป็นนิจ นั่งที่ไหนก็จะพูดจาให้เพื่อนฝูงมีเรื่องต้องหัวเราะกันบ่่อย ๆ

เส้นชีวิตดื้อรั้น

เส้นชีวิตเกิดต่ำลงมาในเนินดุดัน (ลงมาใกล้หัวแม่โป้ง) เส้นชีวิตเส้นนี้โดยมากเมื่อเกิดต่ำลงมาแล้ว เส้นสมองก็จะเกิดห่างกับเส้นชีวิตออกไปด้วย แต่บางมือเส้นสมองเกิดต่ำลงมาด้วยก็มี แสดงว่า มักเป็นคนดุ ดื้อ ถือดี มักชอบการทะเลาะวิวาท ทุ่มเถียงกับผู้อื่นอยู่เสมอ คนที่มีเส้นชีวิตเช่นนี้ ถึงแม้ไม่ต่อสู้ตีรันกับผู้อื่น ก็มักจะเกิดทะเลาะวิวาททุบตีกันระหว่างผัว ๆ เมีย ๆ ไม่ได้หยุด

เส้นชีวิตทะเยอทะยาน

เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือ ยาวเป็นรูปโค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐาน ตอนโคนซึ่งอยู่ที่ง่ามมือ มีเส้นแยกพุ่งขึ้นไปสู่เนินอารมณ์อยู่ด้วย (เส้นวาสนาเป็นเส้นอารมณ์) แสดงว่า มีความทะเยอทะยานใฝ่สูง มักมีความพยยามในการที่จะสร้างตัวเองให้รุ่งเรืองอยู่เป็นนิจ

คนที่มีเส้นวาสนาเป็นเส้นอารมณ์ ถ้าเส้นอื่น ๆ ไม่เลวเกินไป จะสร้างหลักฐานบ้านช่องขึ้นได้อย่างบริบูรณ์

เส้นชีวิตรักสงบ

เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากเนินอารมณ์ ถ้ามองดูไกล ๆ มีลักษณะเหมือนเส้นชีวิตในตอนต้น พุ่งขึ้นไปหาเนินอารมณ์ ตอนปลายของเส้นชีวิตยาวไปถึงเนินหลักฐาน แสดงว่า เป็นคนที่มีชีวิตอันรักสงบ คือ ถึงจะมีความโกรธเคืองกับผู้ใด ก็จะอดกลั้นความโกรธเคืองไว้ ไม่ยอมทะเลาะวิวาทบาดหมางกับผู้ใดทั้งสิ้น ถ้าเห็นเขาทะเลาะวิวาทกัน ก็มักหลบเลี่ยงไม่ยอมเข้าใกล้ เพราะหัวใจเป็นคนที่รักสงบ


เส้นชีวิตเดินทางไกล

รูปที่ 1 ชีวิตเดินทางไกล
ชีวิตเดินทางไกล
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือ เมื่อยาวโค้งล้อมเนินครอบครัวไปแล้ว ตอนปลายแยกพุ่งไปหาเนินวิปริต แสดงว่า เมื่อเจริญวัยใหญ่กล้าขึ้นแล้ว จะต้องโยกย้ายออกจากบ้านจากถิ่นที่เกิด เพื่อเดินทางไปอยู่ในแดนไกล ถ้าเส้นชีวิตเดินทางไกลทั้ง 2 มือ แสดงว่า เมื่อเดินทางไปแล้ว จะไปตั้งรกรากอยู่ที่เมืองไกล และจะต้องไปเสียชีวิตอยู่ในเมืองไกลด้วย




รูปที่2  
เส้นชีวิตเกิดขึ้นที่ง่ามมือโค้งไปตามเนินครอบครัวไปสุดอยู่เนินหลักฐาน ตอนกลางของเส้นชีวิตมีเส้นแยกพุ่งไปหาเนินวิปริต(จากภาพ อยู่ด้านขวาค่อนไปทางล่างของมือ) บนเส้นที่แยกไปนั้นมีรูปเป็นเกาะอยู่ด้วย แสดงว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ และเมื่อเดินทางไปแล้ว ก็จะมีเรื่องเสียหายหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นด้วย
รูปที่ 3 เส้นชีวิตหัวใจไปที่อื่น
จากรูปที่ 3 เส้นชีวิตโค้งยาวแบบรูปที่ 2 และตอนกลางของเส้นชีวิตมีเส้นแยกออกเส้นหนึ่ง แต่เส้นที่แยกออกนี้ไม่ได้แยกพุ่งไปหาเนินข้างล่างเหมือนเส้นเดินทางในรูปที่ 2 แต่เส้นที่แยกออกนี้ พุ่งเข้าไปอยู่ใต้เส้นสมองทางตอนปลาย แสดงว่า "หัวใจไปที่อื่น" คือ จะทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ หรือจะมีผัวมีเมียอยู่ก็ตาม แต่หัวใจไม่ได้อยู่กับงานนั้น หรือไม่ได้อยู่กับผัวเมียนั้น หัวใจกลับไปคิดจะทำงานอื่น หรือกลับไปต้องการคู่อื่นอยู่เสมอ



เส้นชีวิตทำอะไรแล้วล้มเลิกภายหลัง

เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือยาวไปได้ครึ่งเดียว ก็แตกออกเป็น 2 ง่าม แสดงว่า ไม่ว่าจะสร้างอะไรขึ้นมา หรือทำงานอย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม สิ่งที่สร้างขึ้นนั้น ก็จะแตกสลายล้มเลิกไปในภายหลังเสมอ เช่น สร้างบ้านแล้วก็ขายไป การที่จะรู้ว่า งานที่ทำหรือสิ่งที่สร้างขึ้นนั้น จะสลายไปเร็วหรือช้าอย่างไร ให้ดูเส้นชีวิตที่แตกออกนั้น ถ้าเส้นชีวิตสั้นแล้วแตก งานที่ทำนั้นก็เลิกเร็ว ถ้ายาว นาน ๆ จึงจะเลิกหนหนึ่ง

เส้นชีวิตทำงานเพื่อผู้อื่น

รูปที่ 1

ชีวิตเพื่อผู้อื่นเป็นครั้งคราว (ดังรูปที่ 1)
เส้นชีวิตเกิดที่ง่ามมือยาวโค้งล้อมเนินครอบครัวไปถึงเนินหลักฐาน แต่มีบางตอนที่คดไปภายในเส้น แสดงว่า ในระยะที่เส้นชีวิตคดเข้าไปนั้น จะต้องเสียเงินทองให้ผู้อื่น หรือต้องไปทำงานให้คนอื่นในระยะนั้นก็ได้ (เส้นที่้คดเข้าไปมีลักษณะเป็นรูปโค้ง ถ้าเส้นชีวิตคดเข้าไปมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม จะเกิดการเจ็บป่วยขึ้นในระยะนั้น)
รูปที่ 2


ชีวิตเพื่อผู้อื่นบั้นปลาย (ดังรูปที่ 2)
เส้นชีวิตเกิดที่ง่ามมือยาวโค้งล้อมเนินครอบครัวไปถึงเนินหลักฐาน แต่ตอนปลายที่จะถึงส้นมือ คดเข้าไปภายในเพียงเล็กน้อยด้วย แสดงว่า เมื่ออายุน้อย จะกระทำกิจการที่หาเลี้ยงชีพด้วยลำแข้งของตนเองได้ แต่เมื่ออายุมากเข้าจะต้องไปทำกิจการของผู้อื่น หรือไปเป็นลูกจ้างผู้อื่น และเมื่อไปรับใช้ผู้อื่นแล้ว จนตลอดชีวิต ก็ไม่ได้กลับมาทำกิจการหาเลี้่ยงชีพด้วยตนเองอีก





เส้นชีวิตล้มละลายแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

เส้นชีวิตเกิดจากเกาะที่ตอนโคนของเส้นสมอง (คือ เส้นสมองนักธรรมชาติวิทยา) เส้นชีวิตเมื่อยาวออกมาเพียงเล็กน้อยแล้วก็แตกออกเป็น 2 ง่าม แสดงว่า จะล้มเหลวในชีวิต แต่ตนเองก็เห็นว่า ความล้มละลายของชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาสามัญหรือเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่เห็นจะเป็นสิ่งผิดแปลกแต่อย่างใด

เส้นชีวิตโยกย้ายแล้วรุ่งเรือง,ไม่รุ่งเรือง

รูปที่ 1 เส้นชีวิตโยกย้ายแล้วรุ่งเรือง
       รูปที่2 เส้นชีวิตโยกย้ายแล้วไม่รุ่งเรือง
เส้นชีวิตโยกย้ายแล้วรุ่งเรือง (ดังรูปที่ 1)
เส้นชีวิตเกิดขึ้นจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐาน ตอนกลางมีเส้นแยกออกจากเส้นชีวิตไปชนที่เส้นวาสนาตรงที่ราบกลางมือ เส้นวาสนาพุ่งเลยเส้นสมองขึ้นไปชนกับเส้นหัวใจ แสดงว่า จะต้องโยกย้ายออกไปจากที่อยู่เดิมเสมอ ๆ เมื่อย้ายไปหนหนึ่ง ชีวิตก็จะเจริญขึ้นครั้งหนึ่ง เหมือนข้าราชการ เมื่อย้ายไปครั้งหนึ่ง ก็เลื่อนยศหนหนึ่ง แต่เมื่อย้ายไปแล้วภายหลังก็ต้องกลับมาอยู่ที่เดิมอีก
แต่ถ้าเส้นวาสนาพุ่งชนไปถึงเส้นสมอง ดังรูปที่2 แสดงว่า อันที่จริง มีหลักบ้านช่องบริบูรณ์อยู่แล้ว แต่ต้องการโยกย้ายไปกระทำกิจการบางสิ่งบางอย่างในที่อื่นอีก แต่ครั้นโยกย้ายไปเมื่อใด เมื่อนั้นก็จะได้รับความเสียหายถึงหมดตัวทุกครั้ง ต้องย้ายกลับมาที่เก่าเสมอ จึงเป็นเส้นชีวิตที่โยกย้ายแล้วไม่รุ่งเรือง(ดังรูปที่ 2) ต้องกลับที่เดิม

เส้นชีวิตต้นดี ปลายร้าย


รูปที่1
รูปที่2
เส้นชีวิตเกิดขึ้นเป็นเส้นโค้ง ล้อมเนินครอบครัว ทางปลายในเนินหลักฐานเป็นเกาะขึ้น (เกาะนี้โดยมากเกิดขึ้นจากเส้นหลักฐานทำรูปกันเข้าเป็นเกาะไม่ใช่เกิดขึ้นลอย ๆ) แต่เกาะนี้ไม่ใหญ่นัก แสดงว่า เมื่ออายุน้อย มักมีทรัพย์สินเงินทองมาก แต่เมื่ออายุมากเข้าตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ก็มักจะยากจนลงกว่าอายุน้อย ๆ ทั้งสติสัมปชัญญะก็ไม่ค่อยดีด้วย
แต่ถ้าเกาะใหญ่มาก ดังรูปที่2 แสดงว่า ชีวิตจะเจอปัญหาหนักมากกว่าเกาะเล็ก เช่น พอสร้างบ้านสร้างที่อยู่ขึ้น ความเสียหายวิบัติด้วยเรื่องต่าง ๆ จะเกิดขึ้นทันทีจนกระทั่งหมดตัว และจะต้องยากจนลงถึงกับครองสติไม่ได้

เส้นชีวิตโรคกระเพาะ

เส้นชีวิตโรคกระเพาะ
เส้นชีวิต เกิดเป็นเกาะ เลยอายุ 3 ปีขึ้นไป (เมื่อใช้หลักวัดเส้นชีวิต) เกาะไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป แสดงว่า จะเป็นโรคกระเพาะอาหาร แต่จะรุนแรงมากหรือน้อย ให้ดูความชัเจนของเส้นที่เกิดเป็นเกาะขึ้นนั้น ถ้าเกาะชัดเจนมาก แสดงว่า จะเป็นโรครุนแรงมากถึงกับมีการผ่าตัด ถ้าเป็นเกาะเล็ก ๆ จะเป็นโรคชั่วคราว แล้วรักษาหายไปก็ได้

เส้นชีวิตยืนยาว

เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือ โค้งล้อมเนินครอบครัวไปจนถึงเนินหลักฐาน หรือยาวไปจนถึงส้นมือ ในท่อนปลายของเส้นชีวิตแยกออกเป็นเส้นหลักฐานอยู่ด้วย เส้นหลักฐานเกิดขึ้นมีลัษณะเป็นรูปยาว ๆ แสดงว่า เป็นคนมีหลักฐานบ้านช่องบริบูรณ์ และจะเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงเสมอ ไม่ค่อยมีการเจ็บไข้ได้ป่วย ยังจะเป็นคนมีอายุยืนยาวด้วย

เส้นชีวิตโยกย้ายเจริญ,โยกย้ายผิดพลาด

รูปที่ 1 โยกย้ายแล้วเจริญ

เส้นชีวิตโยกย้ายเจริญ ดังรูปที่ 1

เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือ โค้งเป็นวงล้อมเนินครอบครัวไปได้เพียงท่อนเดียวก็ขาดหายไป เมื่อเส้นชีวิตขาดหายไป มีเส้นวาสนาเกิดขึ้นจากส้นมือพุ่งขึ้นไปชนเส้นหัวใจอยู่ด้วย แสดงว่า ป็นคนที่จะอยู่ที่ใดไม่นานจะต้องมีการโยกย้ายที่อยู่เสมอ แต่เมื่อย้ายไปครั้งหนึ่งแล้ว ความเป็นอยู่ก็จะเจริญขึ้นกว่าเก่าหนหนึ่ง
แต่ถ้าเส้นวาสนาพุ่งขึ้นไปชนเส้นสมอง ดังรูปที่ 2 แสดงว่า เมื่อใดมีการโยกย้ายที่อยู่หนหนึ่ง เมื่อนั้นก็จะเกิดความเสียหายขึ้นหนหนึ่ง กลายเป็นเส้นชีวิตโยกย้ายผิดพลาด
รูปที่ 2 โยกย้ายแล้วไม่เจริญ

เส้นชีวิตรับจ้าง,ชีวิตเปลี่ยนแปลง

เส้นชีวิตรับจ้าง(รูปที่1)

เส้นชีวิตเกิดขึ้นล้อมเนินครอบครัว เส้นสั้นไม่ยาวไปถึงเนินหลักฐาน ยาวไปได้ครึ่งหนึ่งของเส้นชีวิตแล้วก็ขาดหายไป แต่ตอนปลายที่จวนจะขาดหายไปนั้น ได้โยกโค้งเล็กน้อย แสดงว่า เกิดมาจะต้องไปกระทำกิจการให้ผู้อื่นอยู่เสมอ และเมื่อไปกระทำกิจการให้ผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว อยู่ไม่ช้าไม่นาน ก็จะต้องเปลี่ยนแปลง แล้วไปกระทำกิจการให้ผู้อื่นต่อไปอีก

ชีวิตเปลี่ยนแปลง (รูปที่ 2)
เส้นชีวิตเกิดจากง่ามมือโค้งล้อมเนินครอบครัวไปได้เพียงครึ่งเดียวก็ขาดหายไป แต่เส้นชีวิตที่ขาดหายไปนั้น ไม่ได้คดเข้าหรือคดออก แสดงว่าเป็นคนที่ชอบหากินด้วยการกระทำกิจการหลายสิ่งหลายอย่างอยู่เป็นนิจ และงานนั้นไม่เลือกว่าเป็นของตนเองหรืองานของผู้อื่น ก็ทำทั้งสิ้น มักชอบการเปลี่ยนแปลงอาชีพอยู่เป็นประจำ

เส้นชีวิตเชื่อตนเอง

เส้นชีวิตเชื่อตนเอง(รูปที่ 1)
เส้นชีวิตเกิดขึ้นตรงกลางของเส้นสมอง คือ เมื่อเส้นสมอง เกิดยาวออกมาแล้ว จึงเกิดเส้นชีวิตขึ้น หรือมองดูจากที่ไกล เหมือนเส้นชีวิตขึ้นไปชนเส้นสมองอยู่ตรงกลาง แสดงว่า เป็นคนที่เชื่อตนเองเกินไป ทำอะไรมักคิดว่า ทำดี ทำถูกแต่ผู้เดียวไม่เชื่อผู้อื่น มักตั้งตัวได้ด้วยตัวของตัวเอง ไม่ต้องมีผู้อื่นช่วยเหลือ
แต่ถ้าเส้นชีวิตเชื่อตนเอง เกิดขึ้นทั้งสองมือ จะเป็นคนเชื่อตนเองเกินไป จนเข้าผู้อื่นไม่ได้ พูดขวางหูคนอื่น กลายเป็นไม่ดีไป เพื่อนฝูงมักไม่ยอมคบค้าสมาคมด้วย
เส้นชีวิตเชื่อตนเอง อาจวิบัติ(รูปที่2)

เส้นชีวิตเกิดขึ้นตรงกลางของเส้นสมอง มองดูไกล ๆ เหมือนเส้นชีวิตขึ้นไปชนเส้นสมองอยู่ตรงกลาง เส้นนี้เป็นตัวแทนของเส้นชีวิตและเส้นวาสนาด้วย คือ เหมือนเส้นชีวิตที่เชื่อตนเอง แต่ยังมีเส้นวาสนาพุ่งขึ้นไปชนเส้นสมองอยู่ด้วย แสดงว่า เป็นคนเชื่อตนเอง แต่เมื่อใดเกิดความเชื่อตนเองขึ้นมาโดยไม่เชื่อผู้อื่นเลย เมื่อนั้น อาจตัดสินใจผิดพลาด นำไปสู่ความวิบัติเสียหายอย่างมากได้